วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2550

Audio Grabber โปรแกรมแปลงเพลงจาก ซีดีเพลงธรรมดา ให้เป็น MP3


Audio Grabber โปรแกรมแปลงเพลงจาก ซีดีเพลงธรรมดา ให้เป็น MP3
ในขณะนี้ เพลงในรูปแบบของ MP3 กำลังเป็นที่นิยมกันมากสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ วิธีการที่จะแปลงเพลงจากรูปแบบของ CD Audio หรือ CD เพลงธรรมดาทั่ว ๆ ไปก็ง่าย ๆ โดยใช้โปรแกรม Audio Grabber เป็นตัวแปลง มาดูวิธีการกันเลยดีกว่า
เริ่มต้นจากหาโปรแกรม Audio Grabber มาติดตั้งก่อน โปรแกรมนี้จะเป็น Shareware ครับซึ่งจะมีข้อจำกัดต่าง ๆ มากเหมือนกันเช่นในรุ่นเก่า ๆ ก็จะทำการแปลงได้เฉพาะบาง Track เท่านั้น หรือในรุ่นใหม่ ๆ ที่เห็นก็คือจะทำการแปลงได้เพียงแค่ครึ่ง Track ดังนั้น งานนี้ต้องหาตัวที่เป็น Full Version มาใช้กันเอง เมื่อทำการ Download มาเรียบร้อยแล้วก็ทำการ Unzip ไปเก็บไว้ก่อน แล้วสั่ง Setup จากไฟล์ Setup.exe ได้เลย จากนั้นก็กด Next ไปเรื่อย ๆ จนเสร็จ (ง่าย ๆ นะ ขอไม่ลงรายละเอียดในส่วนของ วิธีการติดตั้งนะ)
นอกจากนี้แล้ว เจ้าโปรแกรม Audio Grabber ก็ยังสามารถทำการติดตั้งตัว Encoder ตัวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ด้วย ที่ผมแนะนำให้ใช้ก็คือ BladeEnc's MP3 DLL หาได้จากเวปของ Audio Grabber Download เพราะว่าจะได้เสียงที่ดีกว่าตัว Encoder ที่มีมาให้กับ Audio Grabber มาก การติดตั้ง Encoder ก็ทำได้ง่าย ๆ ครับ เพียงแค่ทำการ Unzip เอาไปเก็บไว้ใน Folder เดียวกับโปรแกรม Audio Grabber เท่านั้นก็ใช้งานได้แล้ว ในขั้นแรก ให้ทำการหา Download และติดตั้งให้ครบก่อน
เริ่มต้นเรียกโปรแกรม Audio Grabber (หากหาไม่พบใน Start Menu ลองใช้ Windows Explorer เปิดหาจาก C:\Program Files\AudioGrabber นะครับ เรียกไฟล์ audiograbber.exe ตามรูปตัวอย่าง)

เมื่อเรียกโปรแกรมขึ้นมาและใส่แผ่น CD เพลงในช่อง CD ROM Drive จะเห็นหน้าตาดังนี้
ก่อนที่จะเริ่มต้น ต้องทำการ Set ค่าต่าง ๆ ก่อนครับ เริ่มจาก ใช้เมาส์กดที่ปุ่ม Settings บน Tool Bar
ที่ช่อง Directory to store files in: ให้เลือกชื่อของ Folder ที่จะเก็บไฟล์ MP3 หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว โดยอาจจะสร้าง Folder ขึ้นมาใหม่ก็ได้ครับ เพื่อจะได้ไม่ไปปนกับไฟล์อื่น ๆ การเลือกก็ทำโดยกดที่ปุ่ม Browse... แล้วเลือก Folder ที่ต้องการนะครับ เมื่อกำหนดเรียบร้อยแล้วก็กดที่ปุ่ม OK
ทำการ Setup ในส่วนของการแปลงเป็นไฟล์ MP3 โดยใช้เมาส์กดที่ปุ่ม MP3 บนเมนู Tool Bar
ทำการติ๊กถูกที่ช่องต่อไปนี้
Send Wavefile to MP3 CODECDelete wavefile after MP3 is created เพื่อให้ทำการลบไฟล์ wave หลังจากทำ MP3 เสร็จEncode with Highest Quality
หรือตามรูปด้านบนในส่วนด้านล่าง ก็คือส่วนที่สามารถให้เราทำการเลือกโปรแกรมที่จะทำการแปลงไฟล์ MP3 ได้ ซึ่งจะมีทั้งแบบ External และ Internal เนื่องจากในขั้นตอนการติดตั้ง ผมแนะนำให้ใช้ตัวแปลงของ BladeEnc DLL นะ โดยหา Download มาแล้วก็ Unzip เก็บไว้ใน Folder เดียวกับ Audio Grabber เลย การเลือกใช้ก็โดยใช้เมาส์กดเลือกที่ BladeEnc DLL ตามรูปเลย
ช่องของ Mode ก็คือการเลือกจำนวนของข้อมูลที่จะเข้ารหัส โดยปกติจะใช้งานที่ 128kBit/s, 44,100Hz, Stereo ครับ แต่ถ้าใครต้องการคุณภาพเสียงที่ดีกว่านี้ หรือแย่กว่านี้ ก็ลองเลือกเป็นค่าอื่น ๆ ดูก็ได้ ซึ่งยิ่งเราเลือกค่าสูงขึ้น ขนาดของไฟล์ MP3 ที่ได้ก็จะใหญ่มากขึ้นตามไปด้วย เลือกเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กด OK เลย
ขั้นตอนต่อไป ก็คือการกด ติ๊กเครื่องหมายถูก ที่ Norm. เพื่อให้โปรแกรมทำการปรับระดับของเสียงให้เสมอกัน และกด ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง MP3 ด้วยนะ ที่ช่องของ Track ต่าง ๆ ก็เลือกเพลงที่ต้องการจะเปลี่ยนเป็น MP3 จากนั้นกดที่ Grab! เพื่อเริ่มต้น ได้เลย
นี่คือภาพขณะโปรแกรมกำลังทำงาน โดยจะทำการ copy ข้อมูลจากแผ่นเพลงก่อน ทำการ Normal และเปลี่ยนเป็น MP3 ใช้เวลามากน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของเตรื่องคอมพิวเตอร์ และความเร็วของ CD-ROM Drive ด้วยนะ รอจนเสร็จ ก็จะได้ไฟล์ MP3 ตามต้องการ
ไฟล์ MP3 ที่ได้จะเก็บอยู่ใน Folder ที่เราเลือกตอนแรก จะเห็นว่าขนาดไม่ใหญ่มากนัก ก็ทำการเปลี่ยนชื่อให้เป็นชื่อเพลงซะ เป็นอันจบ นำเอาไปฟังกับ Winamp ได้เลย

AGP คืออะไร


AGP ย่อมาจาก Accelerated Graphics Port พัฒนาโดยIntel โดยอ้างอิงอยู่กับมาตรฐาน PCI 2.1 จึงมีแบนด์วิดท์อยู่ที่66 MHz. จุดประสงค์ของ AGP ก็เพื่อเพิ่มความเร็วในการแสดงผลโดยเฉพาะกับวัตถุ 3 มิติและการทำพื้นผิวที่เรียกว่า textureทำให้การแสดงผลภาพวิดิโอที่ละเอียดและราบรื่นมากขึ้น
สำหรับการพัฒนา AGP โดยอินเทลเริ่มใช้ตั้งแต่ยุคของ Slot-1 และPentium II ในปัจจุบันก็ยังมีใช้อยู่รวมทั้งบอร์ดของซ็อคเก็ต 7 ที่เรียกว่า Super 7 ก็สนับสนุน AGP ด้วย AGP ยุคแรกเป็น AGP แบบ 1X ต่อมา 2X และที่สูงสุดตอนนี้คือแบบ 4X ทีมีในเมนบอร์ดที่ใช้ชิพเซ็ตรุ่นใหม่ ๆ
การสร้างภาพ 3 มิติจะมีส่วนประกอบที่สำคัญ 2 ส่วนคือ การสร้างวัตถุ3 มิติและการทำพื้นผิว โดยทั่วไปหน้าที่การสร้างวัตถุ 3 มิติจะเป็นหน้าที่ของซีพียูเนื่องจากซีพียูสามารถคำนวณเลขทศนิยมได้จำนวนมาก ๆ ได้ดีกว่าชิพแสดงผล ส่วนชิพแสดงผลที่อยู่ในการ์ดวีจีเอจะจัดการทางด้านการทำพื้นผิวและแสงเงาต่าง ๆ ถ้ายิ่งมีการใช้พื้นผิวขนาดใหญ่ จำนวนบิตสีมาก ๆ แล้วจะต้องมีการโอนถ่ายข้อมุลจำนวนมากมายและต่อเนื่องเช่นเกมส์ประเภท 3 มิติ การเล่นเกมส์ให้ได้ความเร็วสูง ๆ แอพพลิเคชั่นทางธุรกิจ วิศวกรรมโยธา แอนิเมชั่นต่าง ๆ นี่ก็ต้องการแรมมมาก ๆ นะครับ อย่าคิดว่าเราไม่ได้ทำงานพวกนั้นนะครับก็อาจจะเป็นการเรียนหรือเอามาศึกษาครับ โปรแกรมที่ต้องการการประมวลผลที่ต้องการความเร็วนี่หากมีหน่วยความจำมาก ๆ นี่ก็จะช่วยให้ความสามารถทางด้าน 3 มิติดีและเร็วครับ ไม่ต้องมามัวนั่งคอยทรมานอยู่นะครับ เช่น หากมีงานพรีเซนเตชั่นที่ต้องการให้เห็นสินค้าหรืออุปกรณ์ที่ต้องการเห็นในหลายมุมมองหรือที่ใกล้ ๆ ก็พวกชาร์ตของเอ็กเซลที่แสดงผลแบบแอนิเมชั่นนะครับที่ขนาดใหญ่ ๆ นั้นต้องการหน่วยความจำในการแสดงผลมากทีเดียวครับ การเพิ่มแรมบนการ์ดแสดงผลนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่มีราคาแพงเพราะต้อนทุนในการผลิตแรมที่มีราคาสูง ถือว่าเป็นการสิ้นเปลือง การ์ดแบบ AGP ออกแบบมาเพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้โดยจะมีช่องทางที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ไม่ขึ้นอยู่กับบัสใด ๆ มีการจัดการเป็นของตนเอง ช่องทางที่สร้างขึ้นนี้จะทำการติดต่อระหว่าง System Memory หรือแรมที่อยู่บนเมนบอร์ดติดต่อกับ Graphic Chip เพื่อเพิ่มความเร็วในการถ่ายข้อมูลและดึงเอาส่วนที่ว่างของ System Memory มาใช้ในการประมวลผลของ Texture ขนาดใหญ่ช่องทางนี้คือ AGP ทำให้ลดการใช้แรมจำนวนมากบนตัวการ์ดการ์ดวีจีเอแบบ AGP คุณสมบัติของการ์ด AGP คือ DIME หรือ Direct MemoryExcecute การประมวลผลผ่านหน่วยความจำของระบบหรือแรมโดยตรงเสมือนว่าเป็นหน่วยความจำของตนเอง ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีแรมบนตัวการ์ดแสดงผลที่มากมาย
ความจำหลักนั้นจะส่งผลให้มีการส่งผ่านข้อมูลของการ์ดวีจีเอมีความรวดเร็วขึ้น การส่งผ่านข้อมูลของหน่วยความจำหลักจะขึ้นกับชนิดของหน่วยความจำดังนี้ครับ1. แบบ EDO DRAM.SDRAM จะได้ 528 MB/S2. แบบ SDRAM PC100 จะได้ 800 MB/S3. แบบ DRDRAM จะได้ 1.4 GB/S
ดังนั้นการที่จะได้ความเร็วของการส่งผ่านข้อมูลของ AGP กี่ X นั้นก็ต้องขึ้นกับชนิดของหน่วยความจำหลักด้วยครับ เช่น คุณใช้เมนบอร์ดที่รองรับ AGP4X แต่ใช้ SDram ก็ไม่ได้ใช้ความสามารถถึง 4X หรอกครับเพราะแรมมีความไวไม่ถึงครับ
เข้าใจเรื่องกี่ X ของ AGP=================เมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลพื้นผิว ข้อมูลพื้นผิวจะถูกอ่านจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเช่นฮาร์ดดิสก์หรือซีดีรอมเอาไปเก็บไว้ใน System Memory จากนั้น Graphic Chipจะประมวลผล Texture จาก System Memory ผ่านทางพอร์ต AGP เมื่อได้ผลลัพธ์แล้วจะส่งมายังบัฟเฟอร์ซึ่งก็คือ Local Video Memory เพื่อนำมาแปลงเป็นสัญญาณภาพแสดงที่มอนิเตอร์อีกทีหนึ่งAGP มีความกว้างของบัสเท่ากับ 32 บิตเหมือนกับ PCI แต่แตกต่างตรงกับที่มันวิ่งที่ความเร็วเท่ากับความเร็วของ FSB ซึ่งต่างกับ PCI ที่วิ่งด้วยความเร็วครึ่งหนึ่งของ FSBหากเป็นบัสความไว 66 MHz. ก็จะปรับค่าสัดส่วน AGP เป็น 1/1 บนบัสความไว 100 MHz.จะปรับค่าสัดส่วน AGP เป็น 2/3 ส่วนเมนบอร์ดรุ่นใหม่ที่ใช้บัว 133 MHz. ก็จะปรับค่าสัดส่วน AGP เป็น 1/2 ทำให้การโอนถ่ายข้อมูลของ AGP มีมากกว่า PCI ถึง 2 เท่า นอกจากนั้น AGP ยังสามารถส่งข้อมูลได้ถึง 2 ครั้งต่อ 1 รอบสัญญาณนาฬิกาโดยจะทำการส่งข้อมูลทั้งขอบขาขึ้นและขาลงของสัญญาณนาฬิกา ทำให้มีการโอนถ่ายข้อมูลมากกว่า PCI ถึง 4 เท่าหรือ ประมาณ 528 MB./s และเนื่องจาก AGP เป็นบัสแบบ pipeline ซึ่งทำให้ชิพวีจีเอสามารถประมวลและโอนถ่ายข้อมูลข้อมูลเป็นได้อย่างเต็มที่ อีกทั้ง AGP ยังได้เพิ่มบัสพิเศษอีก 8 เส้นเรียกว่า Sideband Addressing สำหรับให้ชิพวีจีเอประมวลผลคำสั่งพร้อมกับส่งข้อมูลผ่านทางเมนบัส 32 เส้นได้

108 ปัญหา เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่พบกันบ่อย ๆ และแนวทางการแก้ไขเบื้องต้น


108 ปัญหาปัญหาต่าง ๆ ที่พบได้บ่อย ๆ กับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยได้พยายามรวบรวมปัญหาที่พบเห็นกันบ่อย ๆ และนำมาสรุปให้เป็นแนวทางสำหรับ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนอื่น ๆ ได้บ้าง
ปัญหาของ Windows
หลังจาก Setup Windows ใหม่แล้วเกิดการค้าง ไม่ยอมทำการ Setup ต่อไปเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สิ่งหนึ่งที่พบบ่อย ๆ คือการตั้งค่า Virus Warning ใน bios ไว้ทำให้เครื่องไม่สามารถ เขียนข้อมูลทับลงบนส่วนของ boot record ของฮาร์ดดิสก์ได้ ให้ลองแก้ใน bios ตั้งให้เป็น Disable ไว้ก่อน และหลังจากทำการ Setup Windows เสร็จแล้วค่อยตั้งเป็น Enable ใหม่
หลังจาก Setup Windows จะขึ้นข้อความ Windows Protection Errorที่พบบ่อย ๆ มากคือปัญหาของ RAM อาจจะเป็นเฉพาะช่วงที่ทำการ Setup Windows เท่านั้น (โดยที่ปกติก่อน Setup Windows จะใช้งานได้ ไม่เป็นอะไร) ให้ทดลองหา RAM มาเปลี่ยนใหม่ดู หรือหากเป็น SDRAM ให้ทดลองตั้งค่าใน bios ค่าของ CAS จากที่ตั้งเป็น 2 ลองตั้งเป็น 3 ดู อาจจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง
ใช้ AMD K6II-350 ขึ้นไปลง Windows95 แล้วเกิด Error แต่ลง Windows98 ได้จะเกิดจากการใช้ CPU ของ AMD ที่มีความเร็วตั้งแต่ 350MHz ขึ้นไปกับ Windows95 วิธีแก้ไขคือไป Download Patch สำหรับแก้ปัญหานี้ที่ AMDK6UPD.EXE มาแก้ไขโดยสั่งรันไฟล์นี้แล้วบูทเครื่องใหม่ก่อน อ่านรายละเอียดที่นี่
ปัญหาของ ฮาร์ดแวร์
RAM หายไปไหนเนี่ย ใส่เข้าไป 32 M. ทำไม Windows บอกว่ามี 28 M. เอง อาการของ RAM หายไปดื้อ ๆ จะเกิดกับการใช้เมนบอร์ดรุ่นที่มี VGA on board นะครับ ที่จริงก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก เพียงแต่ส่วนหนึ่งของ RAM จะถูกนำไปใช้กับ VGA ครับและขนาดที่จะโดนนำไปใช้ก็อาจจะเป็น 2M, 4M หรือ 8M ก็ได้ขึ้นอยู่กับการตั้งใน BIOS ครับ

ใช้เครื่องได้สักพัก มักจะแฮงค์ พอปิดเครื่องสักครู่แล้วเปิดใหม่ ก็ใช้งานต่อได้อีกสักพักแล้วก็แฮงค์อีก อาจจะเกิดจากความร้อนสูงเกินไป อย่างแรกให้ตรวจสอบพัดลมต่าง ๆ ว่าทำงานปกติดีหรือเปล่า หากเครื่องทำ Over Clock อยู่ด้วยก็ทดลองลดความเร็วลงมา ใช้แบบงานปกติดูก่อนว่ายังเป็นปัญหาอยู่อีกหรือเปล่า ถ้าใน bios มีระบบดูความร้อนของ CPU หรือ Main Board อยู่ด้วยให้สังเกตค่าของ อุณหภูมิ ว่าสูงเกินไปหรือเปล่า ทั้งนี้อาจจะทำการเพิ่มการติดตั้งหรือเปลี่ยนพัดลมของ CPU ช่วยด้วยก็ดี
มีข้อความ BIOS ROM CHECK SUM ERROR ตอนเปิดเครื่อง อาการนี้ส่วนใหญ่เกิดจากถ่านของ BIOS หมดหรือเกิดการหลวมครับ ให้ลองขยับถ่านให้แน่น ๆ ดูก่อน ถ้าไม่หายก็ต้องลองเปลี่ยนถ่านบนเมนบอร์ดดู (ก่อนเปลี่ยนถ้ามี Meter วัดไฟดูก่อนก็ดี) หลังจากเปลี่ยนแล้วให้ทำการ Clear BIOS Jumper ก่อนด้วย จะเป็น Jumper ใกล้ ๆ กับ IC BIOS นั่นแหละ ทำการ Jump ค้างไว้สัก 5 วินาทีแล้วก็ Jump กลับที่เดิมก่อน หลังจากนั้นต้องเข้าไปตั้งค่าต่าง ๆ ของ BIOS ใหม่ด้วย
ลืม Password ของ BIOS จะทำยังไงดี ให้ทำการถอดถ่านของ BIOS ออกสักครู่ แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ ทำการ Clear Jumper BIOS ก่อนด้วย หรือลองดูวิธีการ Clear/Reset Password ของ BIOS
ซื้อฮาร์ดดิสก์มาขนาดใหญ่ ๆ แต่หลังจากทำการ Format แล้วเครื่องมองเห็นแค่ 2G อย่างแรกให้ดูก่อนเลยว่า ใช้ระบบ FAT16 หรือ FAT32 ถ้าหากเป็น FAT16 จะมองเห็นได้สูงสุดแค่ 2G ต่อ 1 Partition เท่านั้น ต้องใช้แบบ FAT32 ครับ วิธีการคือใช้ FDISK ของแผ่น Startup Disk WIN98 มาทำ FDISK (ถ้าเป็น FDISK จาก DOS หรือ WIN95 จะเป็นแบบ FAT16) ดูวิธีการทำ fdisk และ การ format ฮาร์ดดิสก์ ที่นี่
ไม่สามารถใช้งาน ฮาร์ดดิสก์ได้มากกว่า 8G. สำหรับเมนบอร์ดรุ่นเก่า ๆเกิดจากที่ BIOS ไม่สามารถรู้จักกับ ฮาร์ดดิสก์ที่มีขนาดใหญ่ ๆ ได้ จะเป็นกับเมนบอร์ดรุ่นเก่า ๆ ที่เคยพบมาอีกแบบคือ Windows มองเห็นเกิน 8G แต่ไม่สามารถใช้งานได้ จะบอกว่าฮาร์ดดิสก์ของเราเต็ม วิธีแก้ไขอย่างแรกคือ ให้ลองทำการ Update BIOS เป็น Version ใหม่ดูก่อน (ถ้าหาได้) หรือไม่ก็หา Download โปรแกรมสำหรับจัดการพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ จากเวปไซต์ของผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ยี่ห้อนั้น ๆ หรืออาจจะใช้วิธีการแบ่ง Partition ให้มีขนาดใหญ่ไม่เกิน 8G ต่อ 1 Partition ก็อาจจะช่วยได้

ปัญหาของ ซอฟต์แวร์
หลังจากลงโปรแกรมป้องกันไวรัส McAfee 4.0.3 แล้วไม่สามารถบูทเข้า Windows ได้เท่าที่พบจะเกิดกับบางเครื่องเท่านั้น ปัญหาเกิดจากหลังจากที่เราติดตั้ง McAfee ลงไปแล้ว เครื่องจะทำการ Scan ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์โดยใส่เป็น Batch File ไว้ในไฟล์ autoexec.bat ซึ่งบางครั้งจะเป็นปัญหาทำให้ค้าง ไม่ยอมเข้า Windows ต่อไป วิธีแก้ไขคือ ให้เปิดเครื่องเข้าใน MS-DOS Mode โดยกดปุ่ม F8 ค้างไว้ขณะเปิดเครื่อง จะเข้ามาที่เมนู Microsoft Windows 98 Startup Menu เลือกข้อ 6. sefe mode command prompt only แล้วใช้คำสั่ง "edit autoexec.bat" เพื่อแก้ไขไฟล์โดยให้ลบบรรทัดที่มีคำสั่ง scan.exe ออกครับ ทำการ save file แล้วทดลองบูทเครื่องใหม่อีกครั้ง
พิมพ์หน้า Web Page ออกเครื่องพิมพ์แบบ Ink Jet เป็นภาษาไทยไม่ได้ จะมีแต่ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ ปัญหานี้จะเกิดกับการใช้เครื่องพิมพ์แบบ อิงค์เจ็ท รุ่นใหม่ ๆ วิธีแก้ไขคือ ให้ลองหา Download Driver รุ่นใหม่ ๆ ของเครื่องพิมพ์จาก Web Site ของเครื่องพิมพ์นั้น ๆ เพราะบางครั้งอาจจะมีการแก้ไขปัญหานี้แล้ว หรือไม่ก็ใช้วิธีเข้าไปตั้งค่า Regional Settings ที่ Control Panel เป็น English(USA) ก่อน เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วก็เปลี่ยนกลับมาเป็น Thai เหมือนเดิม การตั้งค่าก็ทำโดยกดที่ Start เมนู >> Settings >> Control Panel เลือกที่ Regional Settings เปลี่ยนเป็น English(USA)
สั่ง Defrag Hard Disk แล้วไม่ยอมเสร็จ จะกลับมาเริ่มต้นใหม่ วนแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ สาเหตุเกิดจากมีโปรแกรมบางตัวทำงานอยู่ในเวลานั้นด้วยและสั่งเขียนข้อมูลลงบนฮาร์ดดิสก์ เช่น Screen Saver, Winamp หรือพวก Anti Virus บางตัว ให้ทำการปิดโปรแกรมเหล่านี้ให้หมดก่อน หรืออาจจะใช้วิธีเข้า Windows ใน Self Mode (กด F8 ตอนเปิดเครื่องแล้วเลือก Self Mode)
ใช้การ์ดจอของ TNT แล้วเมื่อพิมพ์ข้อความต่าง ๆ สระบนล่างไม่ยอมขึ้นมาทันทีต้องพิมพ์ตัวต่อไปก่อนจึงจะเห็น เป็นปัญหาที่พบบ่อยมาก ๆ กับผู้ที่ใช้การ์ดจอของ TNT ครับให้ลองหา Driver รุ่นใหม่ ๆ จากเวปไซต์ของผู้ผลิตการ์ดจอมาใช้ จะแก้ไขได้